การสังเกตการณ์อุตสาหกรรมรถยก: การเปลี่ยนแปลงอัจฉริยะและการอัพเกรดได้รับแรงผลักดัน

รายงานรายเดือนเกี่ยวกับรถยกในอุตสาหกรรมเครื่องจักรเมื่อเร็วๆ นี้ ระบุว่าในเดือนมกราคม 2568 ยอดขายรถยกลดลง 15.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอดขายในประเทศลดลงอย่างมากถึง 24% ขณะที่ยอดขายส่งออกเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 0.69% การเปิดเผยข้อมูลนี้ดึงดูดความสนใจจากอุตสาหกรรมอย่างกว้างขวาง 

จากสถิติล่าสุด ตลาดรถยกภายในประเทศเดือนมกราคมมียอดขายรวม 93,648 คัน ลดลง 15,680 คันเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดในประเทศมียอดขายค่อนข้างอ่อนแอ โดยมียอดขาย 54,950 คัน ลดลง 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ยอดขายในประเทศจะชะลอตัว แต่สถานการณ์การส่งออกกลับดีขึ้น โดยอยู่ที่ 38,698 คัน คิดเป็นอัตราการเติบโต 0.69% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่มีความหวังแม้เผชิญกับความผันผวนของตลาด และสัดส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 41.32%

จากมุมมองตลาดภายในประเทศ ในปี 2567 สัดส่วนยอดขายรถยกในประเทศสูงถึง 93.45% และยอดขายรถยกไฟฟ้าก็ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นเช่นกัน โดยยอดขายรถยกไฟฟ้าในปีก่อนหน้าอยู่ที่ 805,000 คัน โดยมีอัตราการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 62.62% 

ท่ามกลางสถานการณ์ตลาดเช่นนี้ ผู้ผลิตรถยกรายใหญ่ต่างเร่งผลักดันการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดรับโอกาสและความท้าทายใหม่ๆ บางบริษัทได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูง และทั้งสองฝ่ายได้ร่วมมือเชิงลึกในด้านโลจิสติกส์อัจฉริยะและการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทได้เปรียบในตลาดในอนาคตอย่างไม่ต้องสงสัย

วิสาหกิจอื่นๆ หลายแห่งกำลังเจาะลึกนวัตกรรมด้าน "หุ่นยนต์อัจฉริยะ + โลจิสติกส์" ด้วยการสร้างโซลูชันโลจิสติกส์ที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น พวกเขาคาดหวังว่าจะหาทางออกในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 

แม้ว่ายอดขายรถยกจะลดลงในช่วงต้นปี 2568 แต่การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการผลิตอาจส่งผลดีต่อยอดขายรถยกในประเทศท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่ฟื้นตัว คาดว่าผู้ประกอบการผลิตในประเทศจะใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบด้านต้นทุนและระยะเวลาในการจัดส่ง รวมถึงประโยชน์จากการเปลี่ยนมาใช้ระบบไฟฟ้า เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แรงผลักดันของนโยบายต่างๆ ความต้องการในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมรถยกอาจเปิดรับโอกาสการเติบโตใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม อนาคตของตลาดรถยกยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต้องติดตามเทรนด์และคว้าโอกาสใหม่ๆ ของการเปลี่ยนแปลงอย่างชาญฉลาด